Posted: 28 Apr 2018 08:49 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
นิตยสาร Dissent ซึ่งเป็นนิตยสารปัญญาชนฝ่ายซ้ ายจากสหรัฐฯ รายงานถึงเรื่องที่ผู้บริ หารมหาวิทยาลัยโคลัมเบี ยพยายามสกัดกั้นไม่ให้พนักงานบั ณฑิตวิทยาลัยจัดตั้งสหภาพ โดยมีการพยายามยืมมือชนชั้ นนำเข้ามาขัดขวางไม่ว่าจะเป็ นบรรษัทยักษ์ใหญ่หรือแม้กระทั่ งรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้กลุ่มคนทำงานในมหาวิทยาลั ยนี้ต้องสู้ศึกการลิดรอนเสรี ภาพในการแสดงความคิดเห็ นและทางวิชาการไปในตัวด้วย
28 เม.ย. 2561 Dissent เล่าถึงการพูดอย่างทำอย่ างของอธิการบดีมหาวิทยาลัยโคลั มเบีย ลี โบลลินเจอร์ ผู้ที่เคยพูดในทำนองวิพากษ์วิ จารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในงานให้รางวัลพูลิตเชอร์ แต่ก็ปฏิบัติต่อลูกจ้างของตั วเองในแบบที่ไม่เหมือนกับคำกล่ าวอ้างหลักการของตน
โบลลินเจอร์เคยพูดไว้เมื่อปีที่ แล้ว (2560) ว่าดูเหมือนจะมีคนสนใจว่ าอะไรเป็นเรื่องจริงอะไรเป็นเรื่ องเท็จน้อยลงทุกวัน ซึ่งชวนให้สื่อที่ไปทำข่ าวการเลี้ยงอาหารค่ำประกาศรางวั ลในวันนั้นคาดว่าเป็นการพูดถึ งทรัมป์ นอกจากนี้ในช่วงที่ทรัมป์ ประกาศสกัดกั้นผู้อพยพ โบลลินเจอร์เองก็เคยให้ความช่ วยเหลือโครงการ “ดรีมเมอร์” ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนส่งเสริ มลูกหลานของผู้อพยพ รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ ในประเด็นนี้ด้วย
แต่ทว่าในวันเดียวกับที่มีการจั ดเลี้ยงอาหารกลางวันของโบลลิ นเจอร์ กลุ่มนักศึกษาบัณฑิตศึ กษาของหาวิทยาลัยเยลก็กำลั งอดอาหารประท้วงการที่ทางมหาวิ ทยาลัยเยลไม่ยอมให้มีการจัดตั้ งสหภาพที่นักศึกษา แม้ว่าพวกเขาจะเลือกตั้งสหภาพกั นขึ้นมาไว้แล้ว ทางม.เยล ถึงขั้นจ้างบริษัทกฎหมาย ‘โปรสเคาเออร์ โรส’ มากำจัดสหภาพนศ.นี้ ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวกั บที่โบลลินเจอร์จ้ างมาทำลายสหภาพแรงงานบัณฑิตศึ กษาของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเช่ นกัน
กลุ่มคนทำงานบัณฑิตวิทยาลัยโคลั มเบียลงคะแนนเสียงจะจัดตั้ งสหภาพมาตั้งแต่ปี 2558 ในตอนนั้นแทนที่ทางมหาวิทยาลั ยจะยอมรับให้พวกเขาจัดตั้ง แต่ก็กลับไปปรึกษากรรมการบอร์ ดแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติสหรัฐฯ (NLRB) พอ NLRB แสดงจุดยืนยอมรั บผลการโหวตทางกลุ่มผู้บริหารก็ ยังคงจะอุทธรณ์ไม่ยอมให้มีการจั ดตั้งสหภาพฯ ต่อ พวกเขาถึงขั้นรอให้รัฐบาลทรัมป์ แต่งตั้งพรรครีพับลิกันเข้ าไปเป็นประธานบอร์ด NLRB เพื่อให้กลับคำตัดสินเดิม
นั่นทำให้บรูซ ร็อบบินส์ ศาตราจารย์ด้านมนุษยศาสตร์ของม. โคลัมเบีย ผู้เขียนบทความให้ Dissent ระบุว่า “โบลลินเจอร์กระทำให้เห็นอย่ างชัดเจนว่าได้วางมหาวิทยาลัยที่ เกรียงไกรของพวกเราไว้ไม่ใช่ ในตำแหน่งเดียวกับการส่งเสริ มเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็ นและการตื่นรู้ แต่วางเอาไว้เป็นพวกเดียวกั บโดนัลด์ ทรัมป์”
แม้เป็น นศ.ป.โท หรือพนักงานมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ ‘มีอภิสิทธิ’ อย่างที่หลายคนมอง
ร็อบบินส์ระบุอีกว่าแม้กระทั่ งในการประกาศรางวัลพูลิตเชอร์ รางวัลทรงเกียรติ์สำหรับนักข่ าว-ช่างภาพ โบลลินเจอร์จะใช้โอกาสนั้ นในการวิจารณ์เรื่องทรัมป์โจมตี เสรีภาพสื่อ แต่โบลลินเจอร์และคนที่ เขามอบหมายก็กลับขอให้ทรัมป์ มาเป็นคนช่วยจัดการกับกลุ่มนั กศึกษาบัณฑิตศึกษาที่ดื้อรั้น
อย่างไรก็ตามนักศึกษาที่ดื้อรั้ นเหล่านี้ก็มีภาพลักษณ์ถู กมองเป็น “ชนชั้นนำที่มีการศึกษา” มากกว่าจะถูกมองเป็นคนจนหรื อคนที่ได้รับการศึกษาน้อย เลยทำให้พวกเขาระดมทุนช่วยเหลื อได้ยาก ไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ทำให้เกิ ดความรู้สึกเห็นใจหรือรู้สึกร่ วมใจกันได้โดยทันที อย่างไรก็ตามในความเป็นจริ งพวกเขาไม่ได้มีอภิสิทธิ์มากเท่ าที่คนอื่นๆ คิดเมื่อเทียบกับคนงานที่อื่นๆ แล้ว
บทความยกตัวอย่างให้เห็นว่าครู โรงเรียนระดับเทียบเท่ามัธยมฯ ในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยยังมีรายได้มากกว่าบั ณฑิตและคนทำงานมหาวิทยาลัยเหล่ านี้ราว 20,000 ดอลลาร์ต่อปี ในแง่สวัสดิการแม้แต่ คนงานแมคโดนัลด์หรือวอลมาร์ทก็ มีสวัสดิการดีกว่าคนทำงานมหาวิ ทยาลัย และเรื่องสวัสดิการนี้เองที่เป็ นเหตุผลหลักๆ ในการที่พวกเขาจะจัดตั้งสหภาพ หนึ่งในเรื่องที่หลักดันอาจจะดู เหมือนเป็นประเด็นเล็กๆ อย่างประกันการทำฟัน แต่จริงๆ แล้วเป็นประเด็นสุขภาพที่ไม่ใช่ เรื่องเล็กน้อย และการประกันสุขภาพจุดนี้ใช้เงิ นงบปะมาณน้อยกว่าด้วยซ้ำเมื่ อเทียบกับเอาไปจ่ายให้บริษัทที่ ปรึกษากฎหมายโปรสเคาเออร์ โรส
ทั้งนี้ยังมีเอกสารของฝ่ายบริ หารมหาวิทยาลัยที่รั่ วไหลออกมาระบุว่าการตั้ งสหภาพในมหาวิทยาลัยเอกชนทำให้ พวกเขากังวลว่าจะเกิดความไม่แน่ นอนจากอะไรใหม่ๆ ทั้งๆ ที่กลุ่มนักศึกษาบัณฑิตศึกษาต้ องเจอกับความไม่แน่ นอนมาโดยตลอดอยู่แล้ว เช่น การขาดสวัสดิการสุขภาพบางด้าน และที่น่าตกใจกว่านั้นคื อในเอกสารที่รั่วไหลระบุว่ าทางมหาวิทยาลัยใช้วิธีการใกล้ เคียงกับคำแนะนำของกลุ่มผู้บริ หารวอลมาร์ทที่พูดถึงวิธีการต่ อต้านสหภาพ
ร็อบบินส์ระบุว่าหลั กการในแบบของบรรษัทนั้นโหดร้ ายต่อลูกจ้างของตัวเองทั้งในด้ านค่าแรงและสวัสดิการ แต่ในฐานะความเป็นมหาวิทยาลัยที่ ไม่ต้องเสียภาษีเนื่องจากถูกอ้ างว่าทำเพื่อประโยชน์สาธารณะนั้ นพวกเขาก็ควรมีหลักการที่สูงกว่ าแบบของบรรษัท ไม่ใช่อ้างว่าทำประโยชน์เพื่ อสาธารณะโดยให้คนทำงานต้องแบกรั บภาระความเจ็บปวดโดยไม่มี ใครสนใจผลประโยชน์ของพวกเขา
บทความของร็อบบินส์ระบุว่าขณะที่ ในวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมามีการประท้วงหยุ ดงานและหยุดเรียนจากนักเรียน พนักงาน และผู้สนับสนุนจำนวนมาก ฝ่ายบริหารของโบลลินเจอร์ก็ ควรจะเลิกจ้างคนนอกให้มีขจัดหรื อขัดขวางการจัดตั้งสหภาพเสียที
เรียบเรียงจาก
A Strike Against Trumpism at Columbia, Dissent, 26-04-2018